Page 28 - Ceta Worldwide Education Australian School Guide 2020
P. 28
โรงเรียนที่ออสเตรเลีย โรงเรียนที่ประเทศไทย
นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนิทกับคุณครู เนื่องจากเกรง
คุณครูและนักเรียนเปรียบเหมือนเพื่อน มีความสนิทสนม กลัวคุณครู โดยนักเรียนอาจเลือกสนิทสนมกับคุณครูเพียง
ความสัมพันธ์ระหว่าง และเข้าถึงนักเรียนทุกคนในชั้นเรียน เนื่องจากชั้นเรียน บางคนที่ให้ความเป็นกันเองกับนักเรียนเท่านั้น เนื่องจาก
คุณครูและนักเรียน มีขนาดเล็ก นักเรียนสามารถซักถามข้อสงสัยและแสดง ชั้นเรียนมีขนาดใหญ่ จึงท�าให้คุณครูไม่สามารถดูแล
ความคิดเห็นกับอาจารย์ได้อย่างอิสระและเป็นกันเอง นักเรียนทุกคนได้ทั่วถึง และนักเรียนอาจไม่ค่อยกล้าซัก
ถามเมื่อไม่เข้าใจ
มีวิชาให้เลือกเรียนมากมาย นักเรียน Year 10–12
สามารถเลือกวิชาที่ตัวเองถนัดและสนใจได้ เช่น วิชาส่วนใหญ่เป็นวิชาพื้นฐาน เช่น สังคมศึกษา
บริหารธุรกิจ การออกแบบเสื้อผ้า วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ส�าหรับวิชาเฉพาะด้าน นักเรียน
ความหลากหลายของวิชา จะได้เรียนเมื่อเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย ดังนั้น นักเรียน
มัลติมีเดีย เป็นต้น ดังนั้น นักเรียนจึงสามารถทราบได้ว่า
สาขาวิชาไหนเป็นสาขาวิชาที่ตนชอบอย่างแท้จริง จึงไม่สามารถทราบได้ว่าสาขาวิชาเหล่านั้นเป็นสาขาวิชา
ก่อนสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ที่ตนชอบอย่างแท้จริงหรือไม่
นักเรียนสามารถเลือกสายวิชาที่เรียนได้
เลือกได้ตามความสนใจเฉพาะตัวของนักเรียน โดย
การเลือกวิชาเรียน นักเรียนจะเลือกเรียนที่ตัวเองสนใจประมาณ 5-7 วิชา แต่วิชาส่วนใหญ่ยังคงเป็นวิชาบังคับ ท�าให้นักเรียนไม่
ต่อปี สามารถเลือกวิชาที่สนใจเป็นพิเศษได้ และต้องเรียนถึง
10-15 วิชาต่อปี
โรงเรียนเป็นผู้ก�าหนดกีฬา ดนตรีและศิลปะที่นักเรียนจะ
นักเรียนสามารถเลือกเรียนกีฬา ดนตรี และศิลปะตาม ต้องเรียนในแต่ระดับชั้นให้ นอกจากนี้ นักเรียนสามารถ
กีฬา ดนตรี ศิลปะ ความถนัดและความสนใจของนักเรียนแต่ละบุคคลได้ เล่นกีฬาที่ชอบได้เฉพาะในช่วงพักกลางวันและหลังเลิก
และโรงเรียนมีการสนับสนุนอย่างจริงจัง
เรียน
มีกิจกรรมต่างๆ มากมายตลอดทั้งปี เช่น งาน Open ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียน โดยส่วนใหญ่จะเป็นกิจกรรมที่
กิจกรรม House, International Week, งานกีฬา, ละครเวที, คอนเสิร์ต นักเรียนคุ้นเคย เช่น กีฬาสี พิธีไหว้ครู และงานส�าคัญทาง
ของนักเรียน ศาสนาต่างๆ
ออสเตรเลียแทบจะไม่มีโรงเรียนกวดวิชาเลย เพราะ
อัตราการแข่งขันสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่สูงมากนักเมื่อ เนื่องจากมีอัตราการแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยที่สูงมาก
เทียบกับประเทศไทย อีกทั้งนักเรียนยังได้รับการสอนให้
การเรียนพิเศษ นักเรียนจึงต้องลงเรียนพิเศษเพื่อให้มีความรู้เท่าทันหรือ
รู้จักแบ่งเวลาให้เหมาะสม แต่จะมีการสนับสนุนจากทาง มากกว่าคนอื่นในระดับชั้นเดียวกัน
โรงเรียนเพื่อส่งเสริมด้านวิชาการให้นักเรียน เช่น การจัด
ชั่วโมงติวหลังเลิกเรียน ฯลฯ
ใช้คะแนน Australian Tertiary Admission Rank (ATAR) ใน
การสมัครเข้ามหาวิทยาลัย ถึงแม้ว่าแต่ละรัฐจะมีการใช้ ใช้ระบบ Admission ในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย โดย
ระบบการศึกษาที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ การ คิดคะแนนจาก ผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร
คิดคะแนนส�าหรับการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย โดยคะแนน มัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ GPAX
จะถูกเก็บจากการสอบย่อยหรือท�ารายงานในระหว่างปี • ผลสอบทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET
การสอบเข้ามหาวิทยาลัย และในปีสุดท้ายนักเรียนจะต้องสอบข้อสอบกลางของ • •ผลสอบความถนัดทั่วไป หรือ GAT
รัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสอบกลางภาคหรือปลายภาค • ผลสอบความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ หรือ PAT
ของโรงเรียน และน�าคะแนนที่ได้มาวัดระดับทั่วทั้งรัฐ จาก • อย่างไรก็ตาม วิธีการคิดคะแนนนี้ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์
นั้นจึงวัดในระดับประเทศและค�านวณออกมาเป็นคะแนน ถึงมาตรฐานของการคิดเกรดเฉลี่ยซึ่งแต่ละโรงเรียนมี
ATAR ซึ่งถือเป็นคะแนนที่มีมาตรฐานแน่นอนและเป็นที่ มาตรฐานไม่เท่ากัน
ยอมรับโดยทั่วไป
28 l CETA AUSTRALIAN SCHOOL GUIDE 2020
