Page 84 - Ceta Worldwide Education UK School Guide 2020
P. 84
PrE DEPartUrE fOR pARENTS
วัยที่เหมาะสมกับการไปเรียนต่อต่างประเทศ
ตามหลักพัฒนาการแล้ว เด็กสามารถเรียนรู้ภาษาที่สองได้ดีตั้งแต่แรก
เกิดถึง 10 ปี แต่หลังจากนั้นก็ยังเรียนรู้ได้นะคะ ส่วนเรื่องของการปรับตัวนั้น ขึ้นอยู่
กับพื้นฐานอารมณ์ของเด็กควบคู่กับประสบการณ์ที่เด็กได้รับ ถ้าเด็กอยู่ต่างประเทศ
แล้วได้รับการดูแลที่เหมาะสมได้พบประสบการณ์ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก
ก็จะสามารถปรับตัวได้ดี
ดังนั้นวัยที่เหมาะสมกับเด็กจึงขึ้นอยู่กับทั้งเหตุผลจากในเรื่องของความ
พร้อมของเด็กแต่ละคนที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นและเหตุผลในข้อนี้รวมกัน
ระยะเวลาในการปรับตัวของเด็ก
ต่อสภาพแวดล้อมใหม่ๆ
เด็กควรปรับตัวได้ภายใน 1 เดือน การปรับตัวนี้หมายถึงสามารถท�างาน
ของตนเองที่ต้องท�าได้ ถึงแม้จะยังมีอารมณ์เหงาเป็นพักๆ ก็ตาม ถ้าเกิน 1 เดือน
แล้วยังไม่สามารถจัดการอะไรต่างๆ ได้ มีอารมณ์เหงาเศร้าตลอดเวลา ก็ควรได้รับ
การดูแลช่วยเหลือแนะน�าจากทางโรงเรียน และ Guardian เพื่อหาทางแก้ไข
การช่วยเหลือและให้ก�าลังใจลูก
ก่อนเดินทางควรให้ก�าลังใจว่าลูกท�าได้ และมีคุณพ่อคุณแม่ที่รักและ
พร้อมที่จะช่วยเหลือเสมอ ไม่ทิ้งแน่นอน รวมทั้งให้ค�าปรึกษาและศึกษาข้อมูล
ประเทศที่จะไป ช่วยวางแผนล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้างและควรแก้ปัญหา
อย่างไรในระหว่างที่ลูกอยู่ต่างประเทศ ควรติดต่อสื่อสารให้ก�าลังใจเป็นที่ปรึกษา
Interview พญ. วิมลรัตน์ วันเพ็ญ และช่วยเหลือแก้ปัญหา ซึ่งการให้ก�าลังใจลูกนอกจากจะพูดเสริมก�าลังใจแล้ว ต้อง
(รองผูอํานวยการฝายการแพทย สื่อให้ลูกรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่รักและภูมิใจในตัวลูก ท�าให้ลูกอยากดูแลตัวเองและท�าให้
สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุนราชนครินทร)
คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจค่ะ
ความพร้อมของเด็กขึ้นอยู่กับปจจัยหลายอย่าง เช่น ควรท�าอย่างไรเมื่อคิดถึงลูก
• วัฒนธรรมในครอบครัวบ้านที่ลูกหลานไปเรียนต่อต่างประเทศกันหลายคน ข้อนี้เป็นข้อที่ส�าคัญค่ะ บ่อยครั้งที่เป็นคุณพ่อคุณแม่จะเป็นฝ่ายที่ปรับ
ลูกเราก็คงไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกอะไร และอาจอยากไปตามญาติๆ ตัวไม่ได้ โดยเฉพาะคุณแม่ที่เป็นคุณแม่บ้าน ดังนั้น นอกจากเตรียมพร้อมให้ลูก
• การวางเป้าหมายให้กับลูก บางบ้านตั้งใจว่าส่งลูกเรียนต่างประเทศแน่นอน แล้ว จะต้องเตรียมใจคุณพ่อคุณแม่ด้วย โดยต้องเตรียมตั้งแต่ก่อนส่งลูกไป ต้องมี
ลูกก็จะได้รับการปูพื้นฐานทักษะที่จ�าเป็นมาระดับหนึ่ง ซึ่งเอื้อต่อความ ตารางกิจกรรมชีวิตใหม่ หากิจกรรมอื่นมาชดเชยและท�ากิจกรรมต่างๆ โดยไม่มีลูก
พร้อมที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ ร่วมด้วยบ้าง จะได้ชินเมื่อลูกไม่อยู่ค่ะ
• การเลี้ยงดู หากเด็กได้รับการส่งเสริมให้ช่วยเหลือตัวเองได้เหมาะสม
ตามวัย จะรู้จักปรับตัว รู้จักแก้ไขปัญหา และมีความพร้อมที่ดี การสร้างความสัมพันธ์เมื่อต้องอยู่ห่างลูก
• พื้นฐานทางอารมณ์ของเด็ก โดยธรรมชาติแล้วเด็กเกิดมามีอารมณ์ติดตัว
แต่ก�าเนิด ถ้าเป็นพื้นฐานทางอารมณ์ที่เลี้ยงง่าย เด็กจะปรับตัวง่าย ทุกคนต้องรู้จักหน้าที่ของตัวเอง เช่น ลูกต้องเรียนและปรับตัวให้ได้
อารมณ์ดี รับการเปลี่ยนแปลงได้ดี แต่ถ้าเป็นพื้นฐานทางอารมณ์ที่เลี้ยงยาก คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องท�างานของตัวเอง มีงานอดิเรก มีความสุขกับการด�าเนินชีวิต
หรือขี้อาย ก็จะปรับตัวกับสิ่งใหม่ๆ ได้ยากกว่า ของตนเอง ซึ่งจะท�าให้มีความสุขและไม่หมกมุ่นหรือทุกข์กับการที่ลูกไม่อยู่ด้วย
• ดังนั้น เราจะทราบว่าลูกพร้อมเมื่อไหร่ก็คงต้องดูที่ลูกเป็นหลักว่าลูก ความสัมพันธ์ที่แข็งแรงอยู่ที่ความสม�่าเสมอ เมื่อปรับตัวกันได้แล้ว ก็ควรที่จะมีการ
สามารถดูแลตัวเองได้โดยที่คุณพ่อคุณแม่อยู่ไกลๆ ได้หรือไม่ มีภาวะทาง ติดต่อสื่อสารกันอย่างสม�่าเสมอ อาจห่างขึ้นบ้าง แต่ก็ยังต้องสม�่าเสมอ เพื่อยังเป็น
จิตใจที่พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ช่องทางที่เชื่อมความรู้สึกและความอบอุ่นใจถึงกันค่ะ
84 l CETA UK SCHOOL GUIDE 2020